วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2557

ฝีกภาษาเอลฟ์ ผ่านลำนำนามาริเอ Namárië

อย่างจริงจากหนังสือ
ลองมาดูประโยคภาษาเควนย่าจริง ๆ จากในหนังสือดูกันบ้าง 

ดวงดาวทอแสงยามเราพบกัน
ประโยคนี้โฟรโด พูดเป็นภาษาเควนย่าเอาใจกิลดอร์ พรายตนแรกที่เหล่าฮอบบิทเจอในการเดินทาง 
Elen síla lúmenn' omentielvo
A star shines at the hour of our meeting 


ลองมาวิเคราะห์กันแบบชัด ๆ คำต่อคำดูนะครับ ได้แสดงไว้ให้ดูด้วยสี 


Elen síla lúmenn' omentielvo
A star shines at the hour of our meeting 
elen = star sil- = shine lúmë = hour omentie = meeting 



นามาริเอ
ลำนำภาษาเควนย่าที่เลื่องลือที่สุดในเรื่อง Lord of the Rings คือบท นามาริเอ ที่ท่านหญิงกาลาดริเอล ขับลำนำลาคณะเดินทางแห่งแหวนที่ลอริเอน 
Ai! laurië lantar lassi súrinen,
Ah! like gold fall the leaves in the wind,
yéni únótimë ve rámar aldaron!
long years numberless as the wings of trees!
Yéni ve lintë yuldar avánier
The long years have passed like swift draughts
mi oromardi lissë-miruvóreva
of the sweet mead in lofty halls
Andúnë pella, Vardo tellumar
beyond the West, beneath the blue vaults of Varda
nu luini yassen tintilar i eleni
wherein the stars tremble
ómaryo airetári-lírinen.
in the voice of her song, holy and queenly.
Sí man i yulma nin enquantuva?
Who now shall refill the cup for me?

An sí Tintallë Varda Oiolossëo
For now the Kindler, Varda, the Queen of the stars,
ve fanyar máryat Elentári ortanë
from Mount Everwhite has uplifted her hands like clouds
ar ilyë tier undulávë lumbulë
and all paths are drowned deep in shadow;
ar sindanóriello caita mornië 
and out of a grey country darkness lies
i falmalinnar imbë met,
on the foaming waves between us,
ar hísië untúpa Calaciryo míri oialë.
and mist covers the jewels of Calacirya for ever.
Sí vanwa ná, Rómello vanwa, Valimar!
Now lost, lost to those of the East is Valimar!
Namárië! Nai hiruvalyë Valimar!
Farewell! Maybe thou shalt find Valimar!
Nai elyë hiruva! Namárië!
Maybe even thou shalt find it! Farewell!




และมาวิเคราะห์กันแบบชัด ๆ คำต่อคำ ทีละบรรทัดเลยครับ 


Ai! laurië lantar lassi súrinen,
Ah! like gold fall the leaves in the wind,

laurëa = golden lanta- = fall lassë = leaf súrë = wind 


yéni únótimë ve rámar aldaron!
long years numberless as the wings of trees!

yén = Elvish century nótimë = countable ráma = wing alda = tree 


Yéni ve lintë yuldar avánier
The long years have passed like swift draughts

linta = swift yulda = draught auta- = pass Special case? avánie- = have pass 


mi oromardi lissë-miruvóreva
of the sweet mead in lofty halls

oro- = high mardë = hall lissë = sweet miruvórë = mead 


Andúnë pella,
beyond the West,

andúnë = sunset pella = beyond (postposition) 


Vardo tellumar nu luini yassen tintilar i eleni
beneath the blue vaults of Varda wherein the stars tremble 
telluma = vault nu = under luin = blue ya = which tintila- = twinkle elen = star 


ómaryo airetári-lírinen.
in the holy and queenly song of her voice.
(in the voice of her song, holy and queenly.)

óma = voice airë = holy tári = queen lírë = song 


Sí man i yulma nin enquantuva?
Who now shall refill the cup for me? 
sí = now man = who yulma = cup quanta- = fill 


An sí Tintallë Varda Oiolossëo
For now the Kindler, Varda, of the Everwhite,
ve fanyar máryat Elentári ortanë
like clouds, uplifted her hands, Queen of the stars
(For now the Kindler, Varda, the Queen of the stars,
from Mount Everwhite has uplifted her hands like clouds)

an = for tinta- = kindle oio- = ever lossë = (snow) white fanya = cloud má = hand orta- = rise 


ar ilyë tier undulávë lumbulë
and all paths are drowned deep in shadow;

ilya = all tië = path undu = down lava- = lick undulava- = drown Passive voice? undulávë- = are drowned lumbulë = shadow 


ar sindanóriello caita mornië 
and out of a grey country darkness lies

sinda = grey nórië = country caita- = lie mornië = darkness 


i falmalinnar imbë met,
on the foaming waves between us,

falma = wave imbë = between met = us 


ar hísië untúpa Calaciryo míri oialë.
and mist covers the jewels of Calacirya for ever.

hísië = mist untúpa- = cover mírë = jewel oialë = forever 


Sí vanwa ná, Rómello vanwa, Valimar!
Now be gone, gone from the East, Valimar!
(Now lost, lost to those of the East is Valimar!)

vanwa = gone na- = be Rómen = East 


Namárië! Nai hiruvalyë Valimar!
Farewell! Maybe thou shalt find Valimar!

namárië = farewell nai = may hir- = find elyë = you, thou 


Nai elyë hiruva! Namárië!
May thou shalt find! Farewell!
(Maybe even thou shalt find it! Farewell!) 

cr -holy_life

Adjective ภาษาเอลฟ์

คำคุณศัพท์ (Adjective)
คำคุณศัพท์ส่วนใหญ่ จะลงท้ายด้วย a หรือ ë โดยการนำคำคุณศัพท์ไปขยายคำนาม จะต้องคำนึงถึงจำนวนของคำนามเช่นกัน ดังนี้
การแปลงรูปตามจำนวน (Numbers Morphology)


เอกพจน์ ไม่มีการแปลงรูป 
พหูพจน์ แบ่งเป็นกรณี 
คำลงท้ายด้วย a ให้เปลี่ยนเป็น ë 
คำลงท้ายด้วย ë ให้เปลี่ยนเป็น i 
คำลงท้ายด้วย ëa ให้เปลี่ยนเป็น ië 
กรณีอื่น เข้าใจว่าใช้วิธีการแปลงเช่นเดียวกับคำนามพหูพจน์ 
ตัวอย่าง 
vanya vendë = a beautiful maiden, vanyë vendi = beautiful maidens 
carnë parma = a red book, carni parmar = red books 
laurëa lassë = a golden leaf, laurië lassi = golden leaves 
firin casar = a dead dwarf, firini casari = dead dwarves 
ขั้นเปรียบเทียบ (Comparative & Superlative)


ขั้นกว่า ไม่ปรากฎหลักฐานว่า มีการแปลงรูปอย่างไร 
ขั้นที่สุด ให้ขึ้นต้นด้วยคำว่า an 
ตัวอย่าง 
vanya (สวย), anvanya (สวยที่สุด) 
calima (สว่าง), ancalima (สว่างที่สุด) 
กริยาคุณศัพท์ (Participle)
คือการนำคำกริยามาใช้เป็นคำคุณศัพท์ขยายคำนาม แบ่งออกตามผู้กระทำ หรือผู้ถูกกระทำดังนี้ 

ผู้กระทำ (Present participle)
ให้ลากสระหลักของคำให้ยาวขึ้น แล้ว 
ถ้าคำลงท้ายด้วย a, r ให้ต่อด้วย la 
ถ้าคำลงท้ายด้วย l ให้ต่อด้วย ala 
กรณีอื่น ให้ลงท้ายคำด้วย ila 
ผู้ถูกกระทำ (Past participle)
ให้ลากสระหลักของคำให้ยาวขึ้น แล้ว 
ถ้าคำลงท้ายด้วย a, r ให้ต่อด้วย na 
ถ้าคำลงท้ายด้วย l ให้ต่อด้วย da 
กรณีอื่น ให้ต่อด้วย ina 
คำกริยาคุณศัพท์นี้ ใช้วิธีแปลงตามรูปจำนวนแบบเดียวกับคำคุณศัพท์ปกติ ยกเว้น present participle ที่จะไม่แปลงรูปตามจำนวน
ตัวอย่าง 
falasta = foam (สาดกระเซ็น), falastala = foaming (present pt), falastana = foamed (past pt) 
car = make (ทำ), carla = making (present pt), carna = made (past pt) 
sil = shine (ส่องแสง), sílala = shining (present pt), silda = shined (past pt) 
rac = break (หัก), rácila = breaking (present pt), rácina = broken (past pt) 
sílala (singular) => sílala (plural) 
silda (singular) => sildë (plural) 
กริยาวิเศษณ์ (Adverb)
การนำคำคุณศัพท์มาใช้ขยายคำกริยา สามารถทำได้โดย นำคำคุณศัพท์มาต่อท้ายด้วย veนาม (Pronoun)
สรรพนาม (Pronoun)
ภาษาเควนย่า สามารถที่จะนำสรรพนามไปต่อท้ายคำกริยา เป็นส่วนหนึ่งของคำได้ โดยสามารถทำหน้าที่ได้ทั้ง ประธานและกรรมของกริยา โดยที่สรรพนามตัวแรกที่ต่อจากกริยา จะถือว่าเป็นประธาน และสรรพนามตัวที่สองที่ต่อจากกริยา จะถือว่าเป็นกรรม
คำสรรพนามบางคำที่มีความหมายเดียวกัน แต่มีการใช้คำหลายแบบนั้น ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่ามีกฏเกณฑ์อย่างไร แต่พอจะสันนิษฐานออกมาได้ดังนี้ 
I ให้ลงท้ายด้วย n, nyë 
You ให้ลงท้ายด้วย l, lyë (แบบสุภาพ) 
You ให้ลงท้ายด้วย ccë (แบบเป็นกันเอง) 
He ให้ลงท้ายด้วย ro 
She ให้ลงท้ายด้วย rë 
It ให้ลงท้ายด้วย s, t 
We ให้ลงท้ายด้วย mmë ("เรา" ไม่รวมผู้ที่ถูกกล่าวถึง) 
We ให้ลงท้ายด้วย lmë ("เรา" รวมผู้ที่ถูกกล่าวถึง) 
We ให้ลงท้ายด้วย lvë ("เรา" สองคน, dual) 
They ให้ลงท้ายด้วย ntë 
ตัวอย่าง 
lendë = went 
lenden, lendenyë = I went 
lendel, lendelyë = You went 
lendentë = They went 
utúvië = have found 
utúvienyë = I have found 
utúvienyes = I have found it 
คำแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive)
การแปลงรูปคำนาม เพื่อแสดงผู้เป็นเจ้าของ 

My ให้ลงท้ายด้วย nya 
Your ให้ลงท้ายด้วย lya (แบบสุภาพ) 
Your ให้ลงท้ายด้วย cca (แบบเป็นกันเอง) 
His ให้ลงท้ายด้วย rya 
Her ให้ลงท้ายด้วย rya 
Its ให้ลงท้ายด้วย rya 
Our ให้ลงท้ายด้วย mma ("เรา" ไม่รวมผู้ที่ถูกกล่าวถึง) 
Our ให้ลงท้ายด้วย lma ("เรา" รวมผู้ที่ถูกกล่าวถึง) 
Our ให้ลงท้ายด้วย lva, lwa ("เรา" สองคน, dual) 
Their ให้ลงท้ายด้วย nta 
ตัวอย่าง 
parma = book 
parmanya = My book 
parmalya = Your book 
parmanta = Their book 
สรรพนามอิสระ (Independent pronoun)
คือคำโดดที่ใช้สำหรับเป็นกรรมสรรพนามโดยเฉพาะ ไม่ใช่เป็นการแปลงรูปคำกริยา ได้แก่ 

Me = ni, inyë 
You = lë, elyë (แบบสุภาพ) 
You = tyë (แบบเป็นกันเอง) 
Him = so 
Her = së 
It = ta 
Us = më ("เรา" หลายคน) 
Us = met ("เรา" สองคน) 
Them = të 

Verb ภาษาเอลฟ์

คำกริยา (Verb)
ศัพท์คำกริยาเบื้องต้น ที่เป็นรากศัพท์ในภาษาเอล์ฟ มักจะลงท้ายด้วยเสียงตัวสะกด ไม่มีสระต่อท้าย ศัพท์ประเภทนี้เรียกว่า Basic Stem (คำศัพท์ธรรมดา) ยังมีคำศัพท์อีกประเภทหนึ่ง ซึ่งแผลงมาจากรากศัพท์ดั้งเดิม เรียกว่า A-Stem (คำศัพท์ - อา) เป็นคำศัพท์ที่มักจะลงท้ายด้วยเสียง อา บางคำก็มีความหมายใกล้เคียงกับรากศัพท์เดิม แต่บางคำก็เปลี่ยนความหมายไปโดยสิ้นเชิง ในการแปลงรูปคำกริยานั้น ส่วนใหญ่จะต้องพิจารณาด้วยว่า คำศัพท์นั้นเป็นประเภท A-Stem หรือไม่ โดยมีกฎเกณฑ์การแปลงรูปดังจะได้อธิบายต่อไปนี้ 
การแปลงรูปตามจำนวน (Numbers Morphology)
เป็นการแปลงรูปตามจำนวนประธาน สำหรับในคำกริยานั้น จะสนใจแค่ว่าประธานเป็น เอกพจน์ หรือ พหูพจน์ 

เอกพจน์ ไม่มีการแปลงรูป 
พหูพจน์ ลงท้ายด้วย r 
การแปลงรูปตามกาล (Tense Morphology)

รูปปกติ (Aorist)
เป็นรูปแบบปกติ ที่แสดงถึงกริยาที่ไม่ได้บ่งบอกกาลเวลา หรือก็คือกริยา infinitive 
Basic Stem ให้ลงท้ายคำด้วย e แต่หากว่า e นั้นไม่ได้อยู่ท้ายคำ (เช่น ยังมีการแปลงรูปตามจำนวนต่อ) ก็ให้เปลี่ยน e เป็น i แทน 
A-Stem ไม่มีการแปลงรูปแต่อย่างใด 
ตัวอย่าง 
car (ทำ) => carë (sg. aorist) => carir (pl. aorist)

lanta (ตก, ร่วง) => lanta (sg. aorist) => lantar (pl. aorist) 
ปัจจุบัน (Present)
สำหรับกริยาที่กำลังเกิดขึ้น และดำเนินอยู่ในขณะนั้น (แต่ไม่จำเป็นต้องเป็น present continuous) 
Basic Stem ให้ลากสระหลักของคำให้ยาวขึ้น และลงท้ายคำด้วย a 
A-Stem ให้ลากสระหลักของคำให้ยาวขึ้น และเปลี่ยน a ตัวท้ายเป็น ëa 
โดยที่การลากเสียงสระหลักของทั้งสองกรณีนั้น ในภาษาเควนย่า การลากเสียงจะทำได้ก็ต่อเมื่อ ตัวสะกดของสระตัวนั้น เป็นมีเสียงเดี่ยว เช่น t, l, c, ฯลฯ แต่เสียงต่อไปนี้ ถือว่าไม่ใช่เสียงเดี่ยว nt, mp, lt, ฯลฯ 
ตัวอย่าง 
sil (ส่องแสง) => síla (sg. present) => sílar (pl. present)

mat (กิน) => máta (sg. present) => mátar (pl. present)

lanta (ตก, ร่วง) => lantëa (sg. present) => lantëar (pl. present)

อดีต (Past)
สำหรับกริยาที่เกิดขึ้น และเสร็จสิ้นไปแล้วในอดีต 
ทั้ง Basic Stem และ A-Stem ให้ลงท้ายด้วย në 
กรณีพิเศษของ Basic Stem 
หากคำศัพท์นั้นลงท้ายด้วย p, t, c แทนที่จะเป็น pnë, tnë, cnë ให้แปลงเป็น mpë, ntë, ncë แทน 
หากคำศัพท์นั้นลงท้ายด้วย l แทนที่จะเป็น lnë ให้แปลงเป็น llë แทน 
ตัวอย่าง 
orta (ขึ้น, ยก) => ortanë 
tir (ดู, เก็บ) => tirnë 
tac (เร่ง) => tancë 
vil (บิน) => villë 
สัมบูรณ์ (Perfect)
สำหรับกริยาที่ได้ทำมาแล้วในอดีต และยังเป็นอยู่มาถึงปัจจุบัน 
Basic Stem แทรกสระหนึ่งตัวเข้าด้านหน้าคำ โดยให้เป็นสระเดียวกับสระหลักของคำ, ให้ลากสระหลักของคำให้ยาวขึ้น, และลงท้ายคำด้วย ië 
A-Stem แทรกสระหนึ่งตัวเข้าด้านหน้าคำ โดยให้เป็นสระเดียวกับสระหลักของคำ, ให้ลากสระหลักของคำให้ยาวขึ้น, และเปลี่ยน a ตัวท้ายเป็น ië 
โดยการลากเสียงนั้น ให้คำนึงถึงตัวสะกดด้วยว่ามีเสียงเดี่ยวหรือไม่ เช่นเดียวกับการลากเสียงใน present tense
ตัวอย่าง 
mat (กิน) => amátië 
tec (เขียน) => etécië 
tul (มา) => utúlië 
panta (เปิด) => apantië 
อนาคต (Future)
สำหรับกริยาที่ยังไม่เกิดขึ้น 
Basic Stem ให้ลงท้ายด้วย uva 
A-Stem ให้ตัด a ตัวท้ายทิ้ง และเปลี่ยนเป็น uva 
ตัวอย่าง 
mat (กิน) => matuva 
linda (ร้องเพลง) => linduva 
tir (ดู, เก็บ) => tiruva, tiruvantë = They will keep, nai tiruvantë = May they will keep (พวกเขาน่าจะเก็บไว้, พวกเขาคงจะเก็บไว้นะ) 
การแปลงรูปกรณีอื่น ๆ

การทำให้เป็นคำนาม (Gerund)
คำกริยาที่จะนำมาใช้เป็นคำนาม ต้องทำให้อยู่ในรูป extended infinitive ก่อน (รูป infinitive ก็คือรูป aorist) ดังนี้ 
Basic Stem ให้ลงท้ายคำ (จากรูป infinitive) ด้วย ta 
A-Stem ไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง 
กรณีที่ต้องการแปลงเป็นคำนาม และคำนั้นเป็นกรรมรอง คือไม่ใช่สิ่งที่ต้องการกล่าวถึงโดยตรงในประโยค ให้ใช้วิธีการแปลงอีกวิธีหนึ่ง 
Basic Stem ให้ลงท้ายคำด้วย ië 
A-Stem ให้ตัด a หรือ ya ทิ้ง แล้วลงท้ายคำด้วย ië 
ตัวอย่าง 
car (ทำ) => carita (การกระทำ) 
tyal (เล่น) => tyalië (การเล่น) 
กริยาคำสั่ง (Imperative)
สำหรับใช้ในประโยคคำสั่ง 
Basic Stem ให้นำหน้าคำด้วย á หรือ ลงท้ายคำด้วย a 
A-Stem ให้นำหน้าคำด้วย á 
ตัวอย่าง 
car (ทำ) => cara! = á carë! (จงทำ), áva carë! (อย่าทำ) 
นอกจากนี้ยังมีบางคำเป็นคำเฉพาะด้วยเช่น 
ela! (ดูสิ), heca! (ไปซะ), ëa! (จงเกิดขึ้น) 


Cr-holy_life

Noun ภาษาเอลฟ์

คำนาม (Noun)
คำนำหน้านาม (Article)
ในภาษาเควนย่า ใช้ตัว i เป็นคำนำหน้านาม เทียบได้กับ the ในภาษาอังกฤษ เช่น elen = star = a star, i elen = the star
การแปลงรูปคำนาม (Case Morphology)
กฏการแปลงรูปคำนามในภาษาเควนย่า 10 กรณี มีดังนี้ 

รูปปกติ (Nominative)
ใช้เป็นประธาน สามารถแบ่งประเภทของคำนามตามจำนวนได้สี่ประเภท ได้แก่ เอกพจน์ (Singular), ทวิพจน์ (Dual), พหูพจน์ (Plural) และ พหุภาคพจน์ (Partitive plural) 
เอกพจน์ ไม่มีการดัดแปลงหรือเพิ่มเติมท้ายคำแต่อย่างใด 
ทวิพจน์ ถ้าคำมีพยางค์สุดท้ายเป็นเสียง t หรือ d ให้เปลี่ยนสระพยางค์สุดท้ายเป็น u ไม่เช่นนั้นให้ลงท้ายคำด้วย t 
พหูพจน์ ถ้าคำนั้นลงท้ายด้วยสระ ให้ต่อท้ายด้วย r (หรือ n ในบางกรณี), หรือถ้าไม่ได้ลงท้ายด้วยสระ ให้ต่อท้ายด้วย i (กรณีที่สระลงท้ายคือ e ให้เปลี่ยนเป็น i, กรณีที่สระลงท้ายคือ ie ให้เปลี่ยนเป็น ier) 
พหุภาคพจน์ ให้ลงท้ายด้วย li 
ตัวอย่าง 
má (มือหนึ่งข้าง) => mát (มือทั้งสอง) 
elen (ดาวหนึ่งดวง) => eleni (ดาวหลายดวง) 
falma (คลื่น) => falmali (คลื่นจำนวนหนึ่ง) 
กรรม (Accusative)
ในภาษาเควนย่าแบบเก่าที่ใช้ในวาลินอร์ คำนามที่เป็นกรรม จะต้องถูกแปลงรูปด้วย (การแปลงรูป accusative นี้จะพบได้แต่ในหนังสือภาษาเควนย่าโบราณเท่านั้น ไม่มีใช้ในภาษาสมัยใหม่) 
เอกพจน์ เฉพาะคำที่ลงท้ายด้วยสระ จะถูกลากเสียงสระให้ยาวขึ้น 
ทวิพจน์ เฉพาะคำที่ลงท้ายด้วย u จะถูกลากเสียงให้เป็น ú 
พหูพจน์ ให้ลงท้ายด้วย i 
พหุภาคพจน์ ให้ลงท้ายด้วย lí 
ตัวอย่าง 
cirya (เรือหนึ่งลำ) => ciryá, ciryar (เรือหลายลำ) => ciryai 
กรรมรอง (Dative)
คำซึ่งเป็นกรรมรองของกริยา เช่น ประธานกระทำบางอย่างกับกรรมตรง ให้/ไปยัง/สำหรับ กรรมรอง 
เอกพจน์ ให้ลงท้ายด้วย n 
ทวิพจน์ ให้ลงท้ายด้วย nt (หรือ en ถ้าคำนั้นลงท้ายด้วย u) 
พหูพจน์ ให้ลงท้ายด้วย in 
พหุภาคพจน์ ให้ลงท้ายด้วย lin 
ตัวอย่าง 
i nís antanë i hínan anna = The woman gave the child a gift. 
สัมพันธการก (Genitive)
สำหรับแสดงความสัมพันธ์ หรือความเป็นเจ้าของ 
เอกพจน์ ให้ลงท้ายด้วย o, กรณีที่สระลงท้ายคือ a ให้เปลี่ยนเป็น o 
ทวิพจน์ ให้ลงท้ายด้วย to 
พหูพจน์ ให้ลงท้ายด้วย on 
พหุภาคพจน์ ให้ลงท้ายด้วย lion 
ตัวอย่าง 
Vardo tellumar = Varda's domes 
Quenta Silmarillion = The story of the Silmarils 
การแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive)
เป็นคำแสดงความเป็นเจ้าของ ต่างกับ genitive ตรงที่ possesive จะแสดงถึงการมีอยู่ หรือครอบครอง ของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ส่วน genitive จะแสดงถึง การเป็นของ หรือ มาจาก ซึ่งของสิ่งนั้นอาจไม่ได้อยู่กับ"เจ้าของ"ก็ได้ 
เอกพจน์ ถ้าลงท้ายด้วยสระ ให้ต่อด้วย va, ถ้าไม่ได้ลงท้ายด้วยสระ ให้ต่อด้วย wa 
ทวิพจน์ ให้ลงท้ายด้วย twa 
พหูพจน์ ให้ลงท้ายด้วย iva (และถ้าสระลงท้ายเป็น e ให้ตัดทิ้งด้วย) 
พหุภาคพจน์ ให้ลงท้ายด้วย líva 
ตัวอย่าง 
Mindon Eldaliéva = Tower of the Eldalië 
róma Oroméva = Oromë's horn 
การบอกสถานที่ (Locative)
เพื่อแสดงความหมายว่า อยู่ ณ/อยู่ที่/อยู่บน บางแห่ง 
เอกพจน์ ถ้าลงท้ายด้วยสระ ให้ต่อด้วย ssë, ถ้าไม่ได้ลงท้ายด้วยสระ ให้ต่อด้วย essë 
ทวิพจน์ ให้ลงท้ายด้วย tsë 
พหูพจน์ ถ้าลงท้ายด้วยสระ ให้ต่อด้วย ssen, ถ้าไม่ได้ลงท้ายด้วยสระ ให้ต่อด้วย issen 
พหุภาคพจน์ ให้ลงท้ายด้วย lissë หรือ lissen 
ตัวอย่าง 
Altáriello Nainië Lóriendessë = Galadriel's Lament in Lóriendë (Lórien) 
Vardo tellumar ... yassen tintilar i eleni = Varda's dome ... in which (where) the stars tremble 
การบ่งบอกปลายทาง (Allative)
เพื่อแสดงความหมายว่า สู่/มายัง/ลงบน บางอย่าง 
เอกพจน์ ถ้าลงท้ายด้วยสระ ให้ต่อด้วย nna, ถ้าไม่ได้ลงท้ายด้วยสระ ให้ต่อด้วย enna 
ทวิพจน์ ให้ลงท้ายด้วย nta 
พหูพจน์ ถ้าลงท้ายด้วยสระ ให้ต่อด้วย nnar, ถ้าไม่ได้ลงท้ายด้วยสระ ให้ต่อด้วย innar 
พหุภาคพจน์ ให้ลงท้ายด้วย linna หรือ linnar 
ตัวอย่าง 
i falmalinnar = upon the foaming waves 
Endorenna utúlien = I have come to Middle-Earth 
การบ่งบอกต้นทาง (Ablative)
เพื่อแสดงความหมายว่า จาก/ออกมาจาก บางอย่าง 
เอกพจน์ ถ้าลงท้ายด้วยสระ ให้ต่อด้วย llo, ถ้าไม่ได้ลงท้ายด้วยสระ ให้ต่อด้วย ello 
ทวิพจน์ ให้ลงท้ายด้วย lto 
พหูพจน์ ถ้าลงท้ายด้วยสระ ให้ต่อด้วย llon หรือ llor, ถ้าไม่ได้ลงท้ายด้วยสระ ให้ต่อด้วย illon หรือ illor 
พหุภาคพจน์ ให้ลงท้ายด้วย lillo หรือ lillon 
ตัวอย่าง 
Ondolindello = From Ondolindë (Gondolin) 
Et Eärello Endorenna utúlien = Out of the Greate Sea to Middle-Earth I am come 
การบ่งบอกผู้กระทำ (Instrumental)
เพื่อแสดงความหมายว่า เป็นการกระทำโดยอะไรบางอย่างหรือใครบางคน 
เอกพจน์ ถ้าลงท้ายด้วยสระ ให้ต่อด้วย nen, ถ้าไม่ได้ลงท้ายด้วยสระ ให้ต่อด้วย enen 
ทวิพจน์ ให้ลงท้ายด้วย nten 
พหูพจน์ ให้ลงท้ายด้วย inen 
พหุภาคพจน์ ให้ลงท้ายด้วย línen 
ตัวอย่าง 
lantar lassi súrinen = Fall of the leaves in (by) the wind 
i carir quettar ómainen = Those who form words with voices 
 (Respective)
โทลคีนได้เขียนถึงกรณีที่สิบนี้ไว้ แต่ไม่มีคำอธิบายว่าไว้ใช้ในสถานการณ์ใด ทั้งยังไม่เคยพบตัวอย่างการใช้งานด้วย จึงเป็นกรณีปริศนาอยู่ 
เอกพจน์ ลงท้ายด้วย s 
ทวิพจน์ ลงท้ายด้วย tes 
พหูพจน์ ลงท้ายด้วย is 
พหุภาคพจน์ ลงท้ายด้วย lis 
บุพบท (Preposition)
นอกจากการแปลงรูปเพื่อขยายความหมายของคำนามแล้ว ยังมีคำที่ใช้เป็นบุพบทต่างหากโดยเฉพาะ เช่น mi = within, imbe = between, tar, pella = beyond, ve = as, tere = through, tenna = until ฯลฯ

Cr-holy_life

การออกเสียง ภาษาเอลฟ์

การออกเสียง (Phonology)
เสียงพยัญชนะและตัวสะกด
การสะกดภาษาเควนย่าด้วยอักษรอังกฤษนั้น วิธีการอ่านส่วนใหญ่ ก็จะใกล้เคียงกับภาษาอังกฤษ อาจมียกเว้นบ้างบางตัว พอจะสรุปเสียงที่น่าสนใจได้ดังนี้ 
c ให้ออกเสียงเป็น ค เสมอ, ไม่ใช่ ซ 
nd เสียง ด ขึ้นจมูก 
mb เสียง บ ขึ้นจมูก 
ng เสียง ก ขึ้นจมูก หรือ ง 
th เสียง th แบบในภาษาอังกฤษ 
ch ออกเสียงเป็น ค, ไม่ใช่ ช 
y ออกเสียง ย อย่างอักษรนำหรือตัวควบกล้ำ ไม่ใช่เป็นสระเหมือนภาษาอังกฤษ 
สังเกตว่า ภาษาเควนย่า จะไม่มีเสียง b, d, g แท้ๆ แต่จะต้องออกเสียงขึ้นจมูกก่อน เป็น mb, nd, ng เท่านั้น 
สระ
เควนย่ามีสระอยู่ห้าเสียงได้แก่ a, e, i, o, u ออกเสียงว่า อา, เอ, อี, โอ, อู ตามลำดับ เป็นสระเสียงสั้น ส่วนสระเสียงยาว เวลาเขียนจะแสดงด้วยเครื่องหมาย accent ที่ติดอยู่บนตัวอักษรดังนี้ á, é, í, ó, ú ในบางครั้ง โทลคีน ใช้เครื่องหมาย diaeresis หรือสองจุดด้านบนสระ ซึ่งไม่มีผลกับการออกเสียงสั้นหรือยาวแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นการช่วยแสดงให้เห็นว่า ให้ออกเสียงสระตัวนั้นอย่างชัดเจน ไม่ถูกกลืนหายไปเหมือนอย่างคำในภาษาอังกฤษ เช่นถ้าเขียนว่า Oromë ก็คือ Orome แต่การที่เขียนแบบนี้ เพื่อเป็นการเตือนให้อ่านออกเสียงว่า โอโรเม ไม่ใช่ โอโรม หรืออย่าง Eärendil ที่เตือนให้ออกเสียงว่า เออาเรนดิล ไม่ใช่ เอียเรนดิล 
สระควบกล้ำ
มีอยู่หกตัวได้แก่ ai, au, oi, ui, eu, iu (ส่วน ei ยังไม่เป็นที่แน่ชัด ว่าใช่สระควบกล้ำอีกตัวหนึ่งหรือไม่) การออกเสียง เป็นตามลำดับดังนี้ ไอ, เอา, โอย, อุย, เอว, อิว 
ตัวอย่าง cirya = เคียร์ยา (คี-อาร์-ยา) nauco = เนาโค (นา-อู-โค) 
meoi = เมโอย (เม-โอ-อี) ainur = ไอนัวร์ (อา-อี-นู-อาร์) 
leuca = เลวคา (เล-อู-คา) uilë = อุยเล (อู-อี-เล) 
nienniquë = เนียนนิเควฺ (นี-เอน-นี-เควฺ) erma = แอร์มา (เอ-อาร์-มา) 
tinco = ทิงโค tildë = ทิลเด 
isil = อิซิล laurëa = เลาเรอา (ลา-อู-เร-อา) 
nainië = ไนนิเอ (นา-อี-นี-เอ) tiuca = ทิวคา (ที-อู-คา)

Cr-holy_life