คำคุณศัพท์ (Adjective)
คำคุณศัพท์ส่วนใหญ่ จะลงท้ายด้วย a หรือ ë โดยการนำคำคุณศัพท์ไปขยายคำนาม จะต้องคำนึงถึงจำนวนของคำนามเช่นกัน ดังนี้
การแปลงรูปตามจำนวน (Numbers Morphology)
เอกพจน์ ไม่มีการแปลงรูป
พหูพจน์ แบ่งเป็นกรณี
คำลงท้ายด้วย a ให้เปลี่ยนเป็น ë
คำลงท้ายด้วย ë ให้เปลี่ยนเป็น i
คำลงท้ายด้วย ëa ให้เปลี่ยนเป็น ië
กรณีอื่น เข้าใจว่าใช้วิธีการแปลงเช่นเดียวกับคำนามพหูพจน์
ตัวอย่าง
vanya vendë = a beautiful maiden, vanyë vendi = beautiful maidens
carnë parma = a red book, carni parmar = red books
laurëa lassë = a golden leaf, laurië lassi = golden leaves
firin casar = a dead dwarf, firini casari = dead dwarves
ขั้นเปรียบเทียบ (Comparative & Superlative)
ขั้นกว่า ไม่ปรากฎหลักฐานว่า มีการแปลงรูปอย่างไร
ขั้นที่สุด ให้ขึ้นต้นด้วยคำว่า an
ตัวอย่าง
vanya (สวย), anvanya (สวยที่สุด)
calima (สว่าง), ancalima (สว่างที่สุด)
กริยาคุณศัพท์ (Participle)
คือการนำคำกริยามาใช้เป็นคำคุณศัพท์ขยายคำนาม แบ่งออกตามผู้กระทำ หรือผู้ถูกกระทำดังนี้
ผู้กระทำ (Present participle)
ให้ลากสระหลักของคำให้ยาวขึ้น แล้ว
ถ้าคำลงท้ายด้วย a, r ให้ต่อด้วย la
ถ้าคำลงท้ายด้วย l ให้ต่อด้วย ala
กรณีอื่น ให้ลงท้ายคำด้วย ila
ผู้ถูกกระทำ (Past participle)
ให้ลากสระหลักของคำให้ยาวขึ้น แล้ว
ถ้าคำลงท้ายด้วย a, r ให้ต่อด้วย na
ถ้าคำลงท้ายด้วย l ให้ต่อด้วย da
กรณีอื่น ให้ต่อด้วย ina
คำกริยาคุณศัพท์นี้ ใช้วิธีแปลงตามรูปจำนวนแบบเดียวกับคำคุณศัพท์ปกติ ยกเว้น present participle ที่จะไม่แปลงรูปตามจำนวน
ตัวอย่าง
falasta = foam (สาดกระเซ็น), falastala = foaming (present pt), falastana = foamed (past pt)
car = make (ทำ), carla = making (present pt), carna = made (past pt)
sil = shine (ส่องแสง), sílala = shining (present pt), silda = shined (past pt)
rac = break (หัก), rácila = breaking (present pt), rácina = broken (past pt)
sílala (singular) => sílala (plural)
silda (singular) => sildë (plural)
กริยาวิเศษณ์ (Adverb)
การนำคำคุณศัพท์มาใช้ขยายคำกริยา สามารถทำได้โดย นำคำคุณศัพท์มาต่อท้ายด้วย veนาม (Pronoun)
สรรพนาม (Pronoun)
ภาษาเควนย่า สามารถที่จะนำสรรพนามไปต่อท้ายคำกริยา เป็นส่วนหนึ่งของคำได้ โดยสามารถทำหน้าที่ได้ทั้ง ประธานและกรรมของกริยา โดยที่สรรพนามตัวแรกที่ต่อจากกริยา จะถือว่าเป็นประธาน และสรรพนามตัวที่สองที่ต่อจากกริยา จะถือว่าเป็นกรรม
คำสรรพนามบางคำที่มีความหมายเดียวกัน แต่มีการใช้คำหลายแบบนั้น ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่ามีกฏเกณฑ์อย่างไร แต่พอจะสันนิษฐานออกมาได้ดังนี้
I ให้ลงท้ายด้วย n, nyë
You ให้ลงท้ายด้วย l, lyë (แบบสุภาพ)
You ให้ลงท้ายด้วย ccë (แบบเป็นกันเอง)
He ให้ลงท้ายด้วย ro
She ให้ลงท้ายด้วย rë
It ให้ลงท้ายด้วย s, t
We ให้ลงท้ายด้วย mmë ("เรา" ไม่รวมผู้ที่ถูกกล่าวถึง)
We ให้ลงท้ายด้วย lmë ("เรา" รวมผู้ที่ถูกกล่าวถึง)
We ให้ลงท้ายด้วย lvë ("เรา" สองคน, dual)
They ให้ลงท้ายด้วย ntë
ตัวอย่าง
lendë = went
lenden, lendenyë = I went
lendel, lendelyë = You went
lendentë = They went
utúvië = have found
utúvienyë = I have found
utúvienyes = I have found it
คำแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive)
การแปลงรูปคำนาม เพื่อแสดงผู้เป็นเจ้าของ
My ให้ลงท้ายด้วย nya
Your ให้ลงท้ายด้วย lya (แบบสุภาพ)
Your ให้ลงท้ายด้วย cca (แบบเป็นกันเอง)
His ให้ลงท้ายด้วย rya
Her ให้ลงท้ายด้วย rya
Its ให้ลงท้ายด้วย rya
Our ให้ลงท้ายด้วย mma ("เรา" ไม่รวมผู้ที่ถูกกล่าวถึง)
Our ให้ลงท้ายด้วย lma ("เรา" รวมผู้ที่ถูกกล่าวถึง)
Our ให้ลงท้ายด้วย lva, lwa ("เรา" สองคน, dual)
Their ให้ลงท้ายด้วย nta
ตัวอย่าง
parma = book
parmanya = My book
parmalya = Your book
parmanta = Their book
สรรพนามอิสระ (Independent pronoun)
คือคำโดดที่ใช้สำหรับเป็นกรรมสรรพนามโดยเฉพาะ ไม่ใช่เป็นการแปลงรูปคำกริยา ได้แก่
Me = ni, inyë
You = lë, elyë (แบบสุภาพ)
You = tyë (แบบเป็นกันเอง)
Him = so
Her = së
It = ta
Us = më ("เรา" หลายคน)
Us = met ("เรา" สองคน)
Them = të
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น