คำกริยา (Verb)
ศัพท์คำกริยาเบื้องต้น ที่เป็นรากศัพท์ในภาษาเอล์ฟ มักจะลงท้ายด้วยเสียงตัวสะกด ไม่มีสระต่อท้าย ศัพท์ประเภทนี้เรียกว่า Basic Stem (คำศัพท์ธรรมดา) ยังมีคำศัพท์อีกประเภทหนึ่ง ซึ่งแผลงมาจากรากศัพท์ดั้งเดิม เรียกว่า A-Stem (คำศัพท์ - อา) เป็นคำศัพท์ที่มักจะลงท้ายด้วยเสียง อา บางคำก็มีความหมายใกล้เคียงกับรากศัพท์เดิม แต่บางคำก็เปลี่ยนความหมายไปโดยสิ้นเชิง ในการแปลงรูปคำกริยานั้น ส่วนใหญ่จะต้องพิจารณาด้วยว่า คำศัพท์นั้นเป็นประเภท A-Stem หรือไม่ โดยมีกฎเกณฑ์การแปลงรูปดังจะได้อธิบายต่อไปนี้
การแปลงรูปตามจำนวน (Numbers Morphology)
เป็นการแปลงรูปตามจำนวนประธาน สำหรับในคำกริยานั้น จะสนใจแค่ว่าประธานเป็น เอกพจน์ หรือ พหูพจน์
เอกพจน์ ไม่มีการแปลงรูป
พหูพจน์ ลงท้ายด้วย r
การแปลงรูปตามกาล (Tense Morphology)
รูปปกติ (Aorist)
เป็นรูปแบบปกติ ที่แสดงถึงกริยาที่ไม่ได้บ่งบอกกาลเวลา หรือก็คือกริยา infinitive
Basic Stem ให้ลงท้ายคำด้วย e แต่หากว่า e นั้นไม่ได้อยู่ท้ายคำ (เช่น ยังมีการแปลงรูปตามจำนวนต่อ) ก็ให้เปลี่ยน e เป็น i แทน
A-Stem ไม่มีการแปลงรูปแต่อย่างใด
ตัวอย่าง
car (ทำ) => carë (sg. aorist) => carir (pl. aorist)
lanta (ตก, ร่วง) => lanta (sg. aorist) => lantar (pl. aorist)
ปัจจุบัน (Present)
สำหรับกริยาที่กำลังเกิดขึ้น และดำเนินอยู่ในขณะนั้น (แต่ไม่จำเป็นต้องเป็น present continuous)
Basic Stem ให้ลากสระหลักของคำให้ยาวขึ้น และลงท้ายคำด้วย a
A-Stem ให้ลากสระหลักของคำให้ยาวขึ้น และเปลี่ยน a ตัวท้ายเป็น ëa
โดยที่การลากเสียงสระหลักของทั้งสองกรณีนั้น ในภาษาเควนย่า การลากเสียงจะทำได้ก็ต่อเมื่อ ตัวสะกดของสระตัวนั้น เป็นมีเสียงเดี่ยว เช่น t, l, c, ฯลฯ แต่เสียงต่อไปนี้ ถือว่าไม่ใช่เสียงเดี่ยว nt, mp, lt, ฯลฯ
ตัวอย่าง
sil (ส่องแสง) => síla (sg. present) => sílar (pl. present)
mat (กิน) => máta (sg. present) => mátar (pl. present)
lanta (ตก, ร่วง) => lantëa (sg. present) => lantëar (pl. present)
อดีต (Past)
สำหรับกริยาที่เกิดขึ้น และเสร็จสิ้นไปแล้วในอดีต
ทั้ง Basic Stem และ A-Stem ให้ลงท้ายด้วย në
กรณีพิเศษของ Basic Stem
หากคำศัพท์นั้นลงท้ายด้วย p, t, c แทนที่จะเป็น pnë, tnë, cnë ให้แปลงเป็น mpë, ntë, ncë แทน
หากคำศัพท์นั้นลงท้ายด้วย l แทนที่จะเป็น lnë ให้แปลงเป็น llë แทน
ตัวอย่าง
orta (ขึ้น, ยก) => ortanë
tir (ดู, เก็บ) => tirnë
tac (เร่ง) => tancë
vil (บิน) => villë
สัมบูรณ์ (Perfect)
สำหรับกริยาที่ได้ทำมาแล้วในอดีต และยังเป็นอยู่มาถึงปัจจุบัน
Basic Stem แทรกสระหนึ่งตัวเข้าด้านหน้าคำ โดยให้เป็นสระเดียวกับสระหลักของคำ, ให้ลากสระหลักของคำให้ยาวขึ้น, และลงท้ายคำด้วย ië
A-Stem แทรกสระหนึ่งตัวเข้าด้านหน้าคำ โดยให้เป็นสระเดียวกับสระหลักของคำ, ให้ลากสระหลักของคำให้ยาวขึ้น, และเปลี่ยน a ตัวท้ายเป็น ië
โดยการลากเสียงนั้น ให้คำนึงถึงตัวสะกดด้วยว่ามีเสียงเดี่ยวหรือไม่ เช่นเดียวกับการลากเสียงใน present tense
ตัวอย่าง
mat (กิน) => amátië
tec (เขียน) => etécië
tul (มา) => utúlië
panta (เปิด) => apantië
อนาคต (Future)
สำหรับกริยาที่ยังไม่เกิดขึ้น
Basic Stem ให้ลงท้ายด้วย uva
A-Stem ให้ตัด a ตัวท้ายทิ้ง และเปลี่ยนเป็น uva
ตัวอย่าง
mat (กิน) => matuva
linda (ร้องเพลง) => linduva
tir (ดู, เก็บ) => tiruva, tiruvantë = They will keep, nai tiruvantë = May they will keep (พวกเขาน่าจะเก็บไว้, พวกเขาคงจะเก็บไว้นะ)
การแปลงรูปกรณีอื่น ๆ
การทำให้เป็นคำนาม (Gerund)
คำกริยาที่จะนำมาใช้เป็นคำนาม ต้องทำให้อยู่ในรูป extended infinitive ก่อน (รูป infinitive ก็คือรูป aorist) ดังนี้
Basic Stem ให้ลงท้ายคำ (จากรูป infinitive) ด้วย ta
A-Stem ไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง
กรณีที่ต้องการแปลงเป็นคำนาม และคำนั้นเป็นกรรมรอง คือไม่ใช่สิ่งที่ต้องการกล่าวถึงโดยตรงในประโยค ให้ใช้วิธีการแปลงอีกวิธีหนึ่ง
Basic Stem ให้ลงท้ายคำด้วย ië
A-Stem ให้ตัด a หรือ ya ทิ้ง แล้วลงท้ายคำด้วย ië
ตัวอย่าง
car (ทำ) => carita (การกระทำ)
tyal (เล่น) => tyalië (การเล่น)
กริยาคำสั่ง (Imperative)
สำหรับใช้ในประโยคคำสั่ง
Basic Stem ให้นำหน้าคำด้วย á หรือ ลงท้ายคำด้วย a
A-Stem ให้นำหน้าคำด้วย á
ตัวอย่าง
car (ทำ) => cara! = á carë! (จงทำ), áva carë! (อย่าทำ)
นอกจากนี้ยังมีบางคำเป็นคำเฉพาะด้วยเช่น
ela! (ดูสิ), heca! (ไปซะ), ëa! (จงเกิดขึ้น)
Cr-holy_life
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น